Page 88 - งานวิจัย - www.culture.go.th/research

Basic HTML Version

70
ย ั
งมี
อั
กษรอี
กกลุ
มหนึ
งคื
ออั
กษร สายจามปา วิ
วั
ฒนาการมาจากอั
กษรพราหมี
เช่
นกั
น แต่
อาจจะผ่
านปั
ลลวะอี
กที
หนึ
งก็
ได้
แบ่
งเป็
นจามปาสายญวนและสายขอม ซึ
งอั
นหลั
งนี
ได้
รั
บอิ
ทธิ
พล
อั
กษรขอมโบราณ วิ
วั
ฒนาการเป็
นอั
กษรขอมและอั
กษรมอญโบราณ ต่
อมาอั
กษรขอม วิ
วั
ฒนาการ
เป็
นอั
กษรเขมร และอั
กษรขอมสุ
โขทั
ย และอั
กษรกลุ
มมอญและกลุ
มขอมได้
ผสมกั
นในไทยจน
กลายเป็
นอั
กษร 3 กลุ ่
ม คื
อกลุ
มไทยกลาง ไทยเหนื
อ และกลุ
มขอม
กลุ
ม ไทยกลาง วิ
วั
ฒนาการมาจากอั
กษรขอมสมั
ยพุ
ทธศตวรรษที่
๑๘ ซึ
งมาจากอั
กษร
ขอมโบราณอี
กต่
อหนึ
ง เกิ
ดเป็
นอั
กษรพ่
อขุ
นรามคํ
าแหง อั
กษรต้
นแบบของชาติ
ไทย จากนั
นได้
วิ
วั
ฒนาการมาเรื่
อยจนถึ
งสมั
ยอยุ
ธยา ซึ
งได้
เกิ
ดอั
กษรอี
กชนิ
ดซึ
งเลี
ยนแบบอั
กษรขอม ขมวดหางล่
าง
และสะบั
ดหางบน คื
ออั
กษรไทยย่
อ จากนั
นอั
กษรไทยอยุ
ธยาแบบธรรมดาและอั
กษรไทยย่
อได้
ผสม
กั
นกลายเป็
นอั
กษรแบบ เดี
ยวกั
น ในสมั
ยธนบุ
รี
-รั
ตนโกสิ
นทร์
สํ
าหรั
บอั
กษรไทยสุ
โขทั
ย (สมั
ยหลั
พ่
อขุ
นรามคํ
าแหง) และไทยอยุ
ธยา ได้
แพร่
กระจายออกไปทางตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อ เกิ
ดเป็
อั
กษรไทยน้
อย และอั
กษรลาวปั
จจุ
บั
กลุ
มไทยเหนื
อ วิ
วั
ฒนาการมาจากอั
กษรพ่
อขุ
นรามคํ
าแหง ผสมกั
บอั
กษรกลุ
มมอญ (มอญ
ได้
วิ
วั
ฒนาการไปเป็
นกวิ
พม่
า และกะเหรี่
ยงด้
วย แต่
อั
กษรเหล่
านี
ไม่
ค่
อยปรากฏในไทย) เกิ
ดเป็
อั
กษรธรรมล้
านนา ใช้
เขี
ยนภาษาบาลี
และอั
กษรฝั
กขาม ใช้
เขี
ยนภาษาไทยทั
วไป อั
กษรธรรม
ล้
านนาได้
กระจายไปย ั
งลาวเกิ
ดเป็
นอั
กษรธรรมอี
สาน และอั
กษรฝั
กขามได้
กระจายไปทางเหนื
อ เกิ
เป็
นอั
กษรไทใหญ่
และไทลื
อ รวมทั
งวิ
วั
ฒนาการในดิ
นแดนล้
านนาเองเป็
นอั
กษรไทยนิ
เทศด้
วย
กลุ
มขอม วิ
วั
ฒนาการมาจากอั
กษรขอมสมั
ยพุ
ทธศตวรรษที่
๑๘ เช่
นเดี
ยวกั
บกลุ
มไทย
กลาง แต่
แยกกลุ
มออกไปเป็
นอั
กษรเขมรปั
จจุ
บั
น และอั
กษรขอมไทย ใช้
เขี
ยนภาษาบาลี
ของกลุ ่
ไทยกลาง วิ
วั
ฒนาการเรื่
อยมาจากสุ
โขทั
ยถึ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
ปั
จจุ
บั
น ได้
มี
การกํ
าหนดอั
กษรไทยมาตรฐาน (ตั
วคั
ดลายมื
อ) ออกมาหลายแบบ เรี
ยกว่
อั
กษรไทยมาตรฐาน เช่
น อั
กษรอาลั
กษณ์
อั
กษรมาตรฐานโครงสร้
างตั
วอั
กษรไทย เป็
นต้
น (นิ
ธิ
ณั
สั
งสิ
ทธิ
. 2553)
สถาปั
ตยกรรมขอม
สถาปั
ตยกรรมขอม
ที่
พบในประเทศไทยและกั
มพู
ชาปรากฏร่
องรอยมากมาย จาก
การศึ
กษาเอกสารทางประวั
ติ
ศาสตร์
ของ ม.ร.ว.สุ
ริ
ยวุ
ฒิ
สุ
ขสวั
สดิ
(2539) ธิ
ดา สาระยา (2540)
สมิ
ทธิ
ศิ
ริ
ภั
ทร์
และมยุ
รี
วี
ระประเสริ
ฐ (2533) และสมมาตร์
ผลเกิ
ด (2529) กล่
าวถึ
ง โบราณสถาน
โบราณวั
ตถุ
ทางศาสนาพราหมณ์
เข้
าสู
อารยธรรมขอมมาตั
งแต่
ยุ
คอาณาจั
กรฟู
นั
น และเจนละ
รุ ่
งเรื
องในยุ
ค พุ
ทธศตวรรษ ที่
10-19 ครอบคลุ
มอาณาเขตในประเทศไทย และกั
มพู
ชา โดยมี
ศู
นย์
กลางอยู
บริ
เวณ จั
งหวั
ดเสี
ยมเรี
ยบของกั
มพู
ชาในปั
จจุ
บั
น หลั
กฐานอารยธรรมอิ
นเดี
ยโบราณใน