68
แปลว่
า “เขมรตอนล่
าง” หรื
อ “เขมรใต้
” แต่
ไทยเรี
ยกว่
า “เขมรสู
ง” กั
บ “เขมรตํ
่
า” ใน
พจนานุ
กรมเขมรอธิ
บายว่
า คํ
าว่
า “แขมร์
” นี
้
ในศิ
ลาจารึ
กโบราณเรี
ยกว่
า “เกมร” และต่
อมา
เรี
ยกว่
า “เขมร” โดยคํ
าอธิ
บายนี
้
มาจากภาษาบาลี
ว่
า “เขมระ” แปล่
า “มี
ความเกษม”
คํ
าว่
า “เขมร” หรื
อ “แขมร์
” นั
้
นเขมรออกเสี
ยงสู
ง “ร” เป็
นเสี
ยงเรผะ แต่
เขมรตํ
่
าไม่
ออกเสี
ยง “ร” คงออกเสี
ยงเป็
น “แขมร์
” เท่
านั
้
น ลาวออกเสี
ยง “กร” เป็
น “ข” ในคํ
าทั
้
งปวง
เช่
นเรี
ยก “นกเกรี
ยล” เป็
น “นกเขี
ยน” ออกเสี
ยง “กราบ” เป็
น ขาบ” เป็
นต้
น และเขี
ยนคํ
า
“เขมร” เป็
น “เขมน” ฉะนั
้
นจึ
งออกเสี
ยง “เขมรกรอม” หรื
อ “แขมร์
กรอม” ว่
า “เขมอนขอม”
และพู
ดสั
้
นๆ ว่
า “ขอม”
คํ
าว่
า “ฮวน” หรื
อ “ฟ้
าน” เป็
นคํ
าเรี
ยกชื่
อ เรื่
องราวของเขมรตอนต้
น สมั
ยราชวงศ์
พระ
ทอง-นางนาค เล่
ากั
นต่
อๆ มาโดยไม่
ได้
จดจารึ
กหรื
อเขี
ยนไว้
แต่
มี
ชื่
อพระมหากษั
ตริ
ย์
และสถานที่
บางแห่
งอยู
่
ในจดหมายเหตุ
จี
นจึ
งต้
องใช้
ชื่
อและเรื่
องราวนั
้
นๆ ตามจดหมายเหตุ
จี
น
คํ
าว่
า “ฮวน” ในภาษาจี
นแต้
จิ ๋
วก็
ดี
คํ
าว่
า “ฟ้
าน” ในภาษาจี
นแคะก็
ดี
สํ
าหรั
บใช้
นํ
าหน้
าชื่
อคนเมื
องขึ
้
นของจี
นหรื
อคนป่
าเถื่
อน ฉะนั
้
นคํ
าว่
า “ฉวน” ในคํ
าว่
า “ฉวน-เที
ยน” เป็
นต้
น
และคํ
าว่
า ”ฟ้
าน” ในคํ
าว่
า “ฟ้
าน-จั
น” เป็
นต้
น จึ
งเป็
นคํ
านํ
าหน้
าพระนาม หาใช่
พระนามไม่
นั
ก
ประวั
ติ
ศาสตร์
ไม่
ควรนํ
ามาใช้
เป็
นชื่
อพระนามพระมหากษั
ตริ
ย์
เขมร
ส่
วนคํ
าว่
า “วรมั
น” แปลว่
า “เกราะ” สํ
าหรั
บใช้
หลั
งชื่
อกษั
ตริ
ย์
และเจ้
าประเทศราช
หรื
อขุ
นศึ
ก คล้
ายกั
บคํ
าว่
า “พระเจ้
า” และ “ขุ
นหลวง” หรื
อ “ขุ
น” เช่
น เกาณฑิ
นยชั
ยวรมั
น
วี
รวรมั
น และ คุ
ณวรมั
น เป็
นต้
น
ชาวอิ
นเดี
ยใต้
โบราณ ใช้
คํ
าว่
า “วรมั
น” ต่
อท้
ายพระนามของพระมหากษั
ตริ
ย์
เมื่
อชาว
อิ
นเดี
ยใต้
เข้
ามามี
อิ
ทธิ
พลในอิ
นโดจี
น คื
อจามและเขมร ในมาเลเซี
ย และในอิ
นโดนี
เซี
ย คื
อ ชวา
สุ
มาตรา และบอเนี
ยว พระมหากษั
ตริ
ย์
ในที่
นั
้
นๆ จึ
งใช้
คํ
าว่
า “วรมั
น” ตามอิ
นเดี
ยใต้
โดยเฉพาะ
เขมร ใช้
คํ
าว่
า “วรมั
น” ตั
้
งแต่
รั
ชกาลของพระเจ้
าเกาณฑิ
นยชั
ยวรมั
น (พ.ศ. 1852-1870 ) รวมเวลา
840 ปี
จึ
งเลิ
กใช้
คํ
าว่
า “วรมั
น”
แม้
พระมหากษั
ตริ
ย์
เขมรใช้
คํ
าว่
า “วรมั
น” ท้
ายพระนามนั
้
น มี
หลายวงศ์
หาใช่
วงศ์
เดี
ยวกั
นไม่
ฉะนั
้
นจึ
งไม่
ควรเรี
ยกว่
า “ราชวงศ์
วรมั
น”
ธรรมทาศ พานิ
ช (2544 : 4) ได้
อธิ
บายขอม กั
บเขมรว่
า ขอมกั
บเขมรเป็
นคนละเชื
้
อชาติ
และมั
กจะเป็
นข้
าศึ
กต่
อกั
น ตลอดเวลาในประวั
ติ
ศาสตร์
สมั
ยใดขอมเป็
นใหญ่
ในดิ
นแดนพระนคร
หลวงก็
รุ ่
งเรื
องไปด้
วยพระพุ
ทธศาสนา สมั
ยใดเขมรเป็
นใหญ่
ดิ
นแดนพระนครหลวงก็
เต็
มไปด้
วย
ไสยศาสตร์
และศิ
วลึ
งค์
พวกขอม คื
อ ไศเลนทรที่
มี
มารดาเป็
นเขมร มี
วั
ฒนธรรมไศเลนทรของฝ่
าย
บิ
ดา ส่
วนพกเขมรแท้
มี
วั
ฒนธรรมไสยศาสตร์
มากไปด้
วยพิ
ธี
กรรมของพวกพราหมณ์
ปุ
โรหิ
ต