Page 194 - งานวิจัย - www.culture.go.th/research

Basic HTML Version

176
ปราสาทขอมในดิ
นแดนประเทศไทยมี
ขนาดเล็
กกว่
าที่
นครวั
ด ส่
วนท่
วงท่
าที่
เคลื่
อนไหวทุ
กองค์
อยู
ในท่
ารํ
าอั
นอ่
อนหวานมี
เสน่
ห์
ดั
งที่
เนาวรั
ตน์
พงษ์
ไพบู
ลย์
เขี
ยนไว้
ในเพลงชื่
อ อั
ปสราที่
สะท้
อนถึ
พื
นถิ
นชาวเขมรในอี
สานตอนใต้
ว่
า “ อ่
าองค์
อั
ปสรา ฟ้
าหยาดแสงดาว ดวงตาสุ
กสกาว วาวไสวใจ
หวั ่
น ร่
ายรํ
าสํ
าอาง เหมื
อนดั
งนางฟ้
าลาวั
ณย์
ดั
จฉะบี
กั
นตรึ
มกระชั
น เจรี
ยงรั
บอั
ปสรา” (นิ
วั
ตร
กองเพี
ยร. 2539 : 170 – 171) ชี
ให้
เห็
นว่
ารู
ปจํ
าหลั
กขอมโบราณสอดรั
บกั
บความรู
สึ
กของคนใน
ท้
องถิ ่
นที่
ยอมรั
บความลึ
กซึ
งกั
บวิ
ถี
ชี
วิ
ตสะท้
อนจิ
ตใจให้
ศิ
ลปะมี
ชี
วิ
ต โดยดึ
งความรู
สึ
กออกมาให้
เป็
นภาพเคลื่
อนไหวความงามด้
วยความหลากหลายในท่
าฟ้
อนรํ
า จากลั
กษณะพื
นฐานการรํ
ารู
ปแบบ
กั
นตรึ
มที่
พั
ฒนาให้
เข้
าถึ
งคุ
ณลั
กษณะของนางอั
ปสร ดั
งที่
มหาวิ
ทยาลั
ยราชภั
ฏสุ
ริ
นทร์
โดยผู
ช่
วย
ศาสตราจารย์
ดร.เครื
อจิ
ต ศรี
บุ
ญนาค ได้
ริ
เริ
มคิ
ดประดิ
ษฐ์
การแสดงระบํ
าอั
ปสรา และปรั
บเปลี่
ยน
รู
ปแบบเข้
ากั
บชุ
มชน กํ
าหนดชื่
อการฟ้
อนรํ
าว่
า “ระบํ
าอั
ปสรสราญหรื
อระบํ
าอั
ปสราภู
ษาไหม” และ
ขยายลงสู
ชุ
มชนปราสาทศี
ขรภู
มิ
ได้
รั
บและปรั
บใช้
กั
บท้
องถิ
นตน ซึ
งชี
ให้
เห็
นถึ
งความหลากหลายใน
พื
นที่
ทางกายภาพของชุ
มชน ทั
งทางด้
านเศรษฐกิ
จ วั
ฒนธรรม และสั
งคม ในรู
ปแบบของทุ
นทาง
สั
งคมหรื
อทุ
นทางวั
ฒนธรรม
2.
การผสมผสานทางวั
ฒนธรรมในระบํ
าอั
ปสรสราญ และระบํ
าอั
ปสรา
มี
การผสมผสานทางวั
ฒนธรรม 3 ส่
วน คื
อ 1) การผสมผสานท่
ารํ
าจากนาฏศิ
ลป์
ที่
เป็
แบบแผนจากราชสํ
านั
ก (ท่
ารํ
ามาตรฐาน) 2) การผสมผสานท่
ารํ
าจากภาพจํ
าหลั
กทั
บหลั
งปราสาท
ศี
ขรภู
มิ
ภาพจํ
าหลั
กนครวั
ด และ 3) การผสมผสานจากท่
ารํ
าพื
นบ้
าน
2.1
การผสมผสานทางวั
ฒนธรรมในระบํ
าอั
ปสรสราญ
2.1.1 การผสมผสานท่
ารํ
าจากนาฏศิ
ลป์
ที่
เป็
นแบบแผนจากราชสํ
านั
(ท่
ารํ
มาตรฐาน
)
ท่
ารํ
าที่
เป็
นแบบแผนจากราชสํ
านั
กไทยนั
นมี
มาแต่
สมั
ยโบราณ และมี
การ
พั
ฒนาขึ
นเป็
ลํ
าดั
บจนเป็
นมาตรฐานแบบฉบั
บหลั
งจากเกิ
ดละครชาตรี
และละครในขึ
น ท่
ารํ
าของละครย่
อมมี
วิ
วั
ฒนาการ มี
ความประณี
ตบรรจง ต่
อมาท่
ารํ
าดั
งกล่
าวถื
อเป็
นแบบฉบั
บสื
บเนื่
องกั
นมาถึ
งสมั
รั
ตนโกสิ
นทร์
และย ั
งคงรั
กษาลั
กษณะท่
าฟ้
อนรํ
าที่
เป็
นมาตรฐาน เป็
นท่
ารํ
าหลั
กและเป็
นแบบฉบั
มาจนถึ
งปั
จจุ
บั
น ท่
ารํ
าของไทยแสดงให้
เห็
นลี
ลาข้
อต่
อของอวั
ยวะส่
วนต่
างๆ ของร่
างกาย เช่
ข้
อมื
อ ข้
อศอก ข้
อเท้
า เข่
า ฯลฯ โดยเฉพาะมื
อและแขนที่
เน้
นให้
เป็
นส่
วนโค้
ง ให้
เห็
นความอ่
อน
ช้
อยสวยงามที่
เป็
นแบบแผนของไทยตามศิ
ลปะแบบพุ
ทธ ส่
วนขาย ั
งคงรั
กษาลั
กษณะตามแบบฉบั
ของอิ
นเดี
ยแสดงออกเป็
นเหลี่
ยม เป็
นการผสมผสานวั
ฒนธรรมสร้
างให้
เกิ
ดรู
ปแบบการรํ
าใน
นาฏศิ
ลป์
และละครไทย
ประเภทของศาสตร์
ทางการเคลื่
อนไหวของไทยแบ่
งเป็
น 3 ประเภท คื
อ 1) ระบํ
า รํ
ฟ้
อน 2) ละคร 3) มหรสพ (โขน หุ
น หนั
งใหญ่
หนั
งตะลุ
ง) ศาสตร์
ทางการเคลื่
อนไหวดั
งกล่
าว