89
น้
อย อํ
าเภอพิ
บู
ลมั
งสาหาร จั
งหวั
ดอุ
บลราชธานี
จากการค้
นพบทั
บหลั
งในศิ
ลปะแบบไพรกเม็
งทั
้
ง
ในเขตจั
งหวั
ดปราจี
นบุ
รี
จั
งหวั
ดสุ
ริ
นทร์
และจั
งหวั
ดอุ
บลราชธานี
แสดงให้
เห็
นถึ
งอิ
ทธิ
พลทาง
ศิ
ลปะเขมรได้
แพร่
กระจายเข้
ามาในประเทศไทย
ในช่
วงศิ
ลปะแบบกํ
าพงพระซึ
่
งตรงกั
บระยะเวลาที่
อาณาจั
กรเขมรเกิ
ดการจลาจล
แตกแยกออกเป็
นแคว้
นเจนละบกและแคว้
นเจนละนํ
้
านั
้
นทํ
าให้
งานศิ
ลปกรรมในช่
วงนี
้
เสื่
อมลงด้
วย
จึ
งไม่
ปรากฏทั
บหลั
งในสมั
ยนี
้
ในดิ
นแดนประเทศไทย รวมทั
้
งทั
บหลั
งในศิ
ลปะแบบกุ
เลนนี
้
ย ั
งไม่
มี
ปรากฏเช่
นกั
น ที่
เป็
นเช่
นนี
้
อาจเป็
นเพราะอยู
่
ในช่
วงที่
พระเจ้
าชั
ยวรมั
นที่
2 ได้
เสด็
จกลั
บมาทรง
รวบรวมอาณาจั
กรเจนละบกและเจนละนํ
้
าเข้
าเป็
นอาณาจั
กรเดี
ยวกั
น จากการที่
อาณาจั
กรเขมรเพิ
่
ง
ฟื
้
นตั
วขึ
้
นใหม่
นี
้
เองจึ
งทํ
าให้
ศิ
ลปะแบบกุ
เลนมี
อยู ่
เฉพาะภายในประเทศกั
มพู
ชาเท่
านั
้
น
ตั
้
งแต่
รั
ชกาลของพระเจ้
าอิ
นทรวรมั
นที่
1 (พ.ศ. 1420 – 1432) ซึ
่
งตรงกั
บศิ
ลปะ
แบบพระโค และรั
ชกาลของพระเจ้
ายโศวรมั
นที่
1 (พ.ศ. 1432 – 1453) ซึ
่
งตรงกั
บศิ
ลปะแบบบาแค็
ง
ในช่
วงพุ
ทธศตวรรษที่
15 นั
้
น อาณาจั
กรเขมรเริ
่
มแข็
งแกร่
งขึ
้
น อิ
ทธิ
พลของศิ
ลปะขอมโบราณจึ
ง
ได้
แพร่
เข้
ามาถึ
งที่
ราบสู
งโคราชในเขตจั
งหวั
ดนครราชสี
มาจึ
งปรากฏทั
บหลั
งในศิ
ลปะแบบพระโคที่
สลั
กเป็
นหน้
ากาลคาบท่
อนมาลั
ยกั
บทั
บหลั
งในศิ
ลปะแบบบาแค็
งที่
แสดงภาพพระนารายณ์
ทรงครุ
ฑ
ที่
ปราสาทพนมวั
น จั
งหวั
ดนครราชสี
มา สํ
าหรั
บศิ
ลปะแบบเกาะแกร์
ซึ
่
งตรงกั
บรั
ชกาลพระเจ้
าชั
ยวร
มั
นที่
4 (พ.ศ. 1471 – 1484) นั
้
น ได้
มี
การค้
นพบในประเทศไทยหลายแห่
ง เช่
น ทั
บหลั
งปราสาท
เมื
องแขก อํ
า เภอสู
ง เนิ
น จั
งหวั
ดนครราชสี
มา และทั
บหลั
งซึ
่
งในปั
จจุ
บั
นเก็
บรั
กษาไว้
ที่
พิ
พิ
ธภั
ณฑสถานแห่
งชาติ
จั
งหวั
ดปราจี
นบุ
รี
เป็
นต้
น สํ
าหรั
บทั
บหลั
งในศิ
ลปะแบบแปรรู
ปได้
มี
การค้
นพบเพี
ยงแห่
งเดี
ยวที่
จั
งหวั
ดปราจี
นบุ
รี
ซึ
่
งเป็
นรู
ปพระนารายณ์
ทรงครุ
ฑมี
อายุ
อยู
่
ในราวปลาย
พุ
ทธศตวรรษที่
15 ซึ
่
งตรงกั
บสมั
ยของพระเจ้
าราเชนทรวรมั
นที่
2 (1487 – 1511)
ส่
วนศิ
ลปะแบบเกลี
ยงซึ
่
งตรงกั
บรั
ชกาลของพระเจ้
าชั
ยวรมั
นที่
5 (1511 – 1544)
พบที่
โคปุ
ระทางด้
านทิ
ศตะวั
นออกของระเบี
ยงคตด้
านทิ
ศตะวั
นออกของปราสาทเมื
องตํ
่
า อํ
าเภอ
ประโคนชั
ย จั
งหวั
ดบุ
รี
รั
มย์
รวมทั
้
งศิ
ลปะแบบบาปวนตอนต้
นก็
พบที่
ปราสาทเมื
องตํ
่
า ปรางค์
น้
อย
ของปราสาทพนมรุ
้
ง จั
งหวั
ดบุ
รี
รั
มย์
และปราสาทบ้
านพลวง อํ
าเภอปราสาท จั
งหวั
ดสุ
ริ
นทร์
เป็
นต้
น
ต่
อมาทั
บหลั
งศิ
ลปะแบบบาปวนแท้
ๆ ได้
ปรากฏแพร่
หลายในเขตภาคตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อ เช่
น
ทั
บหลั
งปราสาทพนมวั
น อํ
าเภอเมื
อง จั
งหวั
ดนครราชสี
มา ปราสาทวั
ดสระกํ
าแพงใหญ่
อํ
าเภอ
อุ
ทุ
มพรพิ
สั
ยในจั
งหวั
ดศรี
สะเกษ ปราสาทเมื
องตํ
่
าในจั
งหวั
ดบุ
รี
รั
มย์
เป็
นต้
น การแพร่
กระจายของ
ศิ
ลปะแบบบาปวนเป็
นจํ
านวนมากเช่
นนี
้
คงเนื่
องจากในช่
วงระยะครึ
่
งแรกของศิ
ลปะแบบนี
้
ตรงกั
บ
รั
ชกาลของพระเจ้
าสุ
ริ
ยวรมั
นที่
1 ได้
มี
การค้
นพบจารึ
กของพระองค์
ไกลเข้
าไปถึ
งภาคกลางของ