Page 25 - งานวิจัย - www.culture.go.th/research

Basic HTML Version

๑๕
๒. ช่
วยกั
นอนุ
รั
กษ์
วั
ฒนธรรมที่
เสื่
อมไปแล้
ว หรื
อกํ
าลั
งทรุ
ดโทรม มี
ที
ท่
าว่
าจะฟื้
นไม่
ไหวแล้
ไว้
ให้
ลู
กหลานได้
ศึ
กษาและเป็
นหลั
กฐานในการศึ
กษาค้
นคว้
าต่
อไป
๓. ช่
วยกั
นส่
งเสริ
มการประพฤติ
ปฏิ
บั
ติ
และการดํ
าเนิ
นการใด ๆ ที่
เกี่
ยวกั
บวั
ฒนธรรมด้
วย
การให้
กํ
าลั
งใจ การสนั
บสนุ
นทางการเงิ
น วั
สดุ
อุ
ปกรณ์
และแรงกายเมื่
อมี
โอกาส
๔. ช่
วยกั
นเผยแพร่
วั
ฒนธรรมไทยให้
เป็
นที่
รู้
จั
ก โดยเฉพาะเยาวชนในชาติ
ควรจะได้
รั
บทราบ
เรื่
องราวประวั
ติ
ความเป็
นมา และคุ
ณประโยชน์
ของวั
ฒนธรรมต่
าง ๆ ของไทย
๕. ช่
วยกั
นพั
ฒนาวั
ฒนธรรมไทยในส่
วนที่
พั
ฒนาได้
ให้
มี
ความเหมาะสมกั
บยุ
คสมั
ย และให้
บั
งเกิ
ดผลต่
อการพั
ฒนาการศึ
กษา เศรษฐกิ
จ สั
งคม การเมื
อง และความมั่
นคงของชาติ
๖. ช่
วยกั
นกลั่
นกรองและรั
บเอาวั
ฒนธรรมต่
างชาติ
ที่
จะมาช่
วยทํ
าให้
วั
ฒนธรรมไทยเจริ
ญขึ้
วรรณภา พู
นพาณิ
ชย์
และคณะ. (๒๕๔๗ : ๙๑ – ๙๒) กล่
าวถึ
งบทบาทของสถาบั
นต่
าง ๆ
ในสั
งคมไทยที่
มี
ต่
อการอนุ
รั
กษ์
วั
ฒนธรรม สรุ
ปได้
ดั
งนี้
๑. ยุ
ทธวิ
ธี
และรู
ปแบบการรณรงค์
ของรั
ฐบาล
๑.๑ การสร้
างความรู้
ความเข้
าใจ โดยการประชาสั
มพั
นธ์
ทั้
งในด้
านสื่
อสิ
งพิ
มพ์
วิ
ทยุ
โทรทั
ศน์
โดยมี
จุ
ดเน้
นกิ
จกรรมวั
นสํ
าคั
ญ ๆ ของชาติ
เช่
น วั
นขึ้
นปี
ใหม่
วั
นเด็
กแห่
งชาติ
วั
นอนุ
รั
กษ์
มรดก
ไทย วั
นศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
วั
นสงกรานต์
วั
นผู้
สู
งอายุ
เป็
นต้
๑.๒ การสร้
างทั
ศนคติ
ที่
เห็
นคล้
อยตาม โดยการสร้
างจิ
ตสํ
านึ
กทางการศึ
กษา ส่
งเสริ
การเรี
ยนการสอน ผลิ
ตและเผยแพร่
คู่
มื
อเสริ
มการเรี
ยนการสอน รวมทั้
งผลิ
ตและเผยแพร่
สื่
อการเรี
ยนการ
สอน เช่
น มี
การสร้
างคู่
มื
อการเรี
ยนการสอนทางวั
ฒนธรรมเพื่
อกระตุ้
นให้
เยาวชนไทยได้
รู้
จั
กวั
ฒนธรรมของ
ชาติ
ไทย เช่
น การมี
คํ
าขวั
ญ “การมี
น้ํ
าใจคื
อไทยแท้
” การรณรงค์
การใช้
ภาษาไทย ภาษาถิ่
ขนบธรรมเนี
ยมประเพณี
ไทย
๑.๓ การสร้
างพฤติ
กรรมร่
วม โดยการกํ
าหนดสั
ญลั
กษณ์
และหนั
งสื
อเพื่
อใช้
ในปี
แห่
งการ
รณรงค์
วั
ฒนธรรมไทย ขอความร่
วมมื
อจากศิ
ลปิ
นที
มี
ชื่
อเสี
ยงร่
วมรณรงค์
วั
ฒนธรรมไทย สอดแทรกปรั
ชญา
ไทย ชี
วิ
ตแบบไทย การชี้
นํ
าให้
คนไทยรู้
จั
กเลื
อกสรรวั
ฒนธรรมที่
ดี
งาม และปฏิ
เสธวั
ฒนธรรมอื่
นที่
ไม่
เหมาะสมกั
บวิ
ถี
ชี
วิ
ตแบบไทย
๒. บทบาทของสถาบั
นครอบครั
วในการรณรงค์
อนุ
รั
กษ์
วั
ฒนธรรมไทย
๒.๑ การสร้
างจิ
ตสํ
านึ
กในการอนุ
รั
กษ์
เช่
น สร้
างความอบอุ่
นในการอยู่
ร่
วมกั
นเป็
ครอบครั
ว ความสามั
คคี
กลมเกลี
ยวกั
นในครอบครั
๒.๒ การอบรมสั่
งสอนเพื่
อให้
สมาชิ
กในครอบครั
วอยู่
ในศี
ลธรรมอั
นดี
รู้
จั
กบาปบุ
ญคุ
โทษ เป็
นตั
วอย่
างที่
ดี
แก่
ครอบครั
๒.๓ สร้
างความเป็
นระเบี
ยบวิ
นั
ย การเคารพกฎหมายบ้
านเมื
อง การรั
กในภู
มิ
ปั
ญญา
ของท้
องถิ่
น การรั
กษาความสะอาด รั
กท้
องถิ่
น เป็
นต้
๓. สถาบั
นการศึ
กษากั
บการอนุ
รั
กษ์
วั
ฒนธรรมไทย
การให้
ความรู้
และการหล่
อหลอมบุ
คลิ
กภาพ การปลู
กฝั
งทั
ศนคติ
สํ
านึ
กในเรื่
องของ
วั
ฒนธรรมไทย จั
ดหลั
กสู
ตรให้
มี
การจั
ดการเรี
ยนการสอนให้
เยาวชนรู้
จั
กรั
กท้
องถิ่
นของตนเอง ภู
มิ
ปั
ญญา
ไทย การดํ
ารงชี
วิ
ตอย่
างไทย ๆ เพื่
อปฏิ
บั
ติ
ในฐานะเป็
นผู้
อนุ
รั
กษ์
และรู้
จั
กเลื
อกสรรวั
ฒนธรรมให้
สอดคล้
อง
กั
บการพั
ฒนาประเทศ โดยมี
จุ
ดเน้
นในเรื่
อง คุ
ณค่
า ซึ่
งเป็
นมรดกทางภู
มิ
ปั
ญญาที่
คน