Page 172 - งานวิจัย - www.culture.go.th/research

Basic HTML Version

๑๖๒
ในด้
านการนํ
าหลั
กปรั
ชญาเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงมาประยุ
กต์
ใช้
พบว่
า ลิ
เกสามารถนํ
าหลั
กปรั
ชญา
เศรษฐกิ
จพอเพี
ยงมาประยุ
กต์
ใช้
ในชี
วิ
ตประจํ
าวั
นเพื่
อการดํ
ารงอยู่
ของตนเองและครอบครั
วโดยปฏิ
บั
ติ
ตน
ตามหลั
กความพอประมาณ ความมี
เหตุ
ผล และการมี
ภู
มิ
คุ้
มกั
นที่
ดี
ในตั
วได้
อย่
างเหมาะสม ชี้
ให้
เห็
นว่
อาชี
พลิ
เกก็
สามารถดํ
ารงชี
วิ
ตอยู่
ในสั
งคมได้
อย่
างมี
ความสุ
ขเช่
นเดี
ยวกั
บอาชี
พอื่
น นอกจากนี้
ลิ
เกยั
สอดแทรกปรั
ชญาเศรษฐกิ
จพอเพี
ยงไว้
ในการแสดงเพื่
อเป็
นแนวคิ
ดให้
แก่
ผู้
ชมโดยปรากฏอยู่
ในการดํ
าเนิ
เรื่
อง ในบทร้
องและคํ
าพู
ดของผู้
แสดง
สํ
าหรั
บแนวทางในการอนุ
รั
กษ์
และพั
ฒนาลิ
เกมี
องค์
ประกอบสํ
าคั
ญ ๓ ส่
วน ได้
แก่
คณะลิ
เก
ประชาชนทั่
วไป และหน่
วยงานที่
เกี่
ยวข้
อง ซึ่
งการอนุ
รั
กษ์
และพั
ฒนาส่
วนใหญ่
เป็
นเรื่
องของคณะลิ
เกที่
จะ
รั
กษาคุ
ณภาพและพั
ฒนาตนเองในด้
านต่
าง ๆ สํ
าหรั
บประชาชนนั้
นมี
ส่
วนช่
วยสนั
บสนุ
นโดยการจั
ดหาลิ
เก
ไปแสดงในงานและให้
ความสนใจชมการแสดงลิ
เกให้
มากขึ้
น ส่
วนหน่
วยงานสํ
าคั
ญ ที่
เกี่
ยวข้
องกั
ศิ
ลปวั
ฒนธรรมของชาติ
อาทิ
กรมส่
งเสริ
มวั
ฒนธรรม สํ
านั
กการสั
งคี
ต กรมศิ
ลปากร วิ
ทยาลั
ยนาฏศิ
ลป
และสถาบั
นการศึ
กษาต่
าง ๆ มี
บทบาทสํ
าคั
ญที่
จะช่
วยส่
งเสริ
ม สนั
บสนุ
นการอนุ
รั
กษ์
และพั
ฒนาลิ
เกด้
วย
วิ
ธี
การที่
หลากหลาย โดยเฉพาะอย่
างยิ่
งการจั
ดทํ
าสื่
อเผยแพร่
ความรู้
เรื่
องลิ
เก จั
ดเวที
การแสดงลิ
เกให้
นั
กเรี
ยน นั
กศึ
กษา และประชาชนเข้
าชม จั
ดโครงการอบรม ให้
ความรู้
ฝึ
กหั
ดการแสดงลิ
เกให้
แก่
นั
กเรี
ยน
นั
กศึ
กษา ตลอดจนผู้
สนใจทั่
วไป รวมทั้
งการจั
ดหลั
กสู
ตรการเรี
ยนการสอนลิ
เกในสถาบั
นการศึ
กษา เพื่
อให้
นั
กเรี
ยน นั
กศึ
กษาได้
เรี
ยนรู้
และตระหนั
กในคุ
ณค่
าของศิ
ลปะการแสดงลิ
เก จั
ดประกวดประชั
นลิ
เก และ
ประกาศยกย่
องเชิ
ดชู
เกี
ยรติ
ศิ
ลปิ
นลิ
เก จั
ดตั้
งพิ
พิ
ธภั
ณฑ์
หรื
อแหล่
งเรี
ยนรู้
เกี่
ยวกั
บลิ
เก รวมทั้
งสนั
บสนุ
นให้
ทุ
นในการศึ
กษาค้
นคว้
า วิ
จั
ยเรื่
องลิ
เกให้
มากขึ้
น ถ้
าทุ
กฝ่
ายให้
ความร่
วมมื
อกั
นอย่
างเต็
มที่
ก็
จะทํ
าให้
ลิ
เกคง
อยู่
คู่
สั
งคมไทยตลอดไป
อภิ
ปรายผล
จากการศึ
กษาภู
มิ
ปั
ญญาที่
ปรากฏอยู่
ในการแสดงลิ
เกทั้
ง ๕ ด้
าน ได้
แก่
ด้
านภาษา ด้
านนาฏศิ
ลป์
ด้
านเพลงและดนตรี
ด้
านการแต่
งกาย แต่
งหน้
า และด้
านเวที
ฉาก แสง สี
เสี
ยง พบว่
าภู
มิ
ปั
ญญาดั
งกล่
าว
เกิ
ดขึ้
นจากการเรี
ยนรู้
การฝึ
กฝน สั่
งสมประสบการณ์
และถ่
ายทอดสื
บต่
อกั
นโดยที่
ยั
งคงรั
กษาภู
มิ
ปั
ญญา
ดั้
งเดิ
มไว้
ในขณะเดี
ยวกั
นก็
ได้
มี
การปรั
บเปลี่
ยนพั
ฒนาบางสิ่
งบางอย่
างให้
เหมาะสมกั
บยุ
คสมั
ยและสภาพ
สั
งคมปั
จจุ
บั
น ซึ่
งสอดคล้
องกั
บแนวคิ
ดของวิ
มล จิ
โรจน์
พั
นธ์
และคณะ (๒๕๔๘ : ๑๒๔) ซึ่
งกล่
าวไว้
ว่
า “ภู
มิ
ปั
ญญาไทยมี
ลั
กษณะเฉพาะ หรื
อมี
เอกลั
กษณ์
ในตั
วเองและภู
มิ
ปั
ญญาไทยมี
การเปลี่
ยนแปลงเพื่
อการปรั
สมดุ
ลในพั
ฒนาการทางสั
งคมตลอดเวลา”
บางอย่
างก็
เป็
นการผสมผสานระหว่
างภู
มิ
ปั
ญญาดั้
งเดิ
มกั
บภู
มิ
ปั
ญญาใหม่
ภู
มิ
ปั
ญญาที่
มองเห็
นเด่
นชั
ดว่
ามี
การเปลี่
ยนแปลงอยู่
ตลอดเวลาคื
อ การแต่
งกายของลิ
เกซึ่
งมี
การสร้
างสรรค์
ให้
แปลกใหม่
อยู่
เสมอทั้
งรู
ปแบบ ลวดลาย และสี
สั
น เดิ
มนั้
นแต่
งกายแบธรรมดาคื
อฝ่
ายชาย
สวมเสื้
อกั๊
ก นุ่
งผ้
ายก มี
ผ้
าคาดศี
รษะ แล้
วปั
กพู่
ไว้
ด้
านหลั
งศี
รษะ สวมถุ
งเท้
ายาวสี
ขาว ใช้
เครื่
องประดั
เพชรพลอยสร้
อยสั
งวาล เน้
นสี
สั
นฉู
ดฉาด ส่
วนตั
วนางสวมกระโปรงยาวแบบชุ
ดราตรี
และมี
เครื่
องประดั
ไม่
มากนั
ก แต่
ปั
จจุ
บั
นนี้
มี
การปรั
บเปลี่
ยนให้
ทั
นสมั
ยมากขึ้
นโดยเฉพาะอย่
างยิ่
งเครื่
องแต่
งกายชายนิ
ยมใช้
ชุ
ดสํ
าเร็
จรู
ปมี
หลากหลายรู
ปแบบและมี
ลวดลายต่
าง ๆ ที่
วิ
จิ
ตรตระการตาอี
กทั้
งยั
งประดั
บตกแต่
งด้
วย
เพชร คริ
สตั
น หรื
อกระจกให้
วั
บแววแพรวพราวเน้
นความสวยงาม นอกจากนี้
ยั
งมี
เครื่
องประดั
บตามส่
วน
ต่
าง ๆ ของร่
างกาย ตั้
งแต่
ศี
รษะ คอ แขน ข้
อมื
อและนิ้
ว สํ
าหรั
บเครื่
องแต่
งกายของฝ่
ายหญิ
งนั้
นยั
งเป็
กระโปรงยาว แต่
มี