187
1.3) ท่
าไหว้
พั
ฒนาจากรู
ปบุ
คลมี
เศี
ยรเป็
นช้
างแสดงอาการถื
อสิ
่
งของ ซึ
่
งอาจเป็
น
กลอง เพื่
อใช้
ตี
กํ
ากั
บจั
งหวะมองดู
ผิ
วเผิ
นคล้
ายพระคเณศกํ
าลั
งประนมมื
อ มาเป็
นท่
ารํ
าในท่
าไหว้
ภาพที่
6.4 ท่
าพรหมสี่
หน้
า และท่
ารํ
าในท่
าปฐม
1.4) รู
ปบุ
คคล 2 คู
่
ข้
างรู
ปพระอิ
ศวร ด้
านละคู
่
คู
่
ด้
านขวากํ
าลั
งทํ
าท่
าแผลงศรดู
ผิ
วเผิ
น
เหมื
อนท่
าฟ้
อนรํ
า มาเป็
นท่
าพรหมสี่
หน้
า และท่
ารํ
าในท่
าปฐม
ภาพที่
6.5 ท่
าอั
ปสรฟ้
อนบู
ชา พั
ฒนาจากรู
ปภาพนางอั
ปสรที่
ปราสาทนครวั
ด
1.5) ภาพนางอั
ปสรที่
ปราสาทนครวั
ดยกมื
อในท่
าตั
้
งวงสู
ง มื
ออี
กข้
างอยู
่
ด้
านหลั
งในท่
า
ถื
อดอกไม้
นํ
ามาพั
ฒนาเป็
นท่
าอั
ปสรฟ้
อนบู
ชา
2.1.3
ท่
ารํ
าพื
้
นบ้
าน
พื
้
นที่
บริ
เวณเทื
อกเขาดงเร็
กในบริ
เวณลุ
่
มนํ
้
าโขงตอนล่
างมี
ความ
หลากหลายทางกลุ ่
มชาติ
พั
นธุ
์
ได้
แก่
กลุ
่
มชาติ
พั
นธุ
์
ในกลุ
่
มออสโตรเอเชี
ยติ
ก (สุ
จิ
ตต์
วงษ์
เทศ.
พลั
ง
ลาวชาวอี
สานมาจากไหน
.
กรุ
งเทพฯ
:
มติ
ชน.
2549,
หน้
า
58 – 59.)
ได้
แก่
เขมร กู
ย ม้
อย ลาว และ
ภาษาถิ
่
นย่
อย ๆอี
กมาก แต่
ละกลุ
่
มมี
ความเป็
นอิ
สระมานั
บเป็
นเวลานาน
2,000
กว่
าปี
เมื่
อรั
บวั
ฒนธรรมจากภายนอก เช่
น การรั
บวั
ฒนธรรมอย่
างค่
อยเป็
นค่
อยไปมาปรั
บใช้
อย่
างเป็
น
กระบวนการ เกิ
ดการปฎิ
สั
มพั
นธ์
ต่
อกั
นของแต่
ละกลุ
่
ม ก่
อให้
เกิ
ดรั
ฐชาติ
มี
ลั
กษณะผสมผสานแนวคิ
ด
กลายเป็
นวั
ฒนธรรมโดดเด่
นของแต่
กลุ
่
มกลายเป็
นรั
ฐชาติ
ใหม่
ขึ
้
นมา เช่
น ราชอาณาจั
กรกั
มพู
ชา