Page 76 - งานวิจัย - www.culture.go.th/research

Basic HTML Version

๖๖
๓. ภู
มิ
ปั
ญญาด้
านเพลงและดนตรี
๓.๑ เพลงที่
ใช้
ในการบรรเลงประกอบการแสดงลิ
เก
สุ
รพล วิ
รุ
ฬห์
รั
กษ์
. (๒๕๒๒ หน้
า ๑๖๗ – ๑๗๑) ได้
แบ่
งเพลงที่
ใช้
ในการแสดงลิ
เก
ออกเป็
น ๓ ประเภทตามลั
กษณะการใช้
คื
อ เพลงตามจารี
ต เพลงตามบท และเพลงตามใจ พอสรุ
ปได้
ดั
งนี้
เพลงตามจารี
ต คื
อ เพลงที่
ใช้
เป็
นแบบแผนในลิ
เกซึ่
งถ่
ายแบบมาจากละครรํ
า และลิ
เก
นิ
ยมใช้
เป็
นมาตรฐานไป เพลงเหล่
านี้
ได้
แก่
เพลงโหมโรง เพลงออกแขก เพลงร้
องด้
น และเพลงกิ
ริ
ยา
เพลงตามบท ได้
แก่
เพลงร้
องอั
นเป็
นเพลงไทยเดิ
มในอั
ตราชั้
นเดี
ยวหรื
อสองชั้
น ใช้
ร้
องส่
บทโศก บทรั
ก บทโกรธ และบทอื่
น ๆ เช่
น บทโศกนิ
ยมใช้
เพลง พญาโศก ลาวครวญ สั
งขารา เสภา เกริ่
ลาว สดายง ธรณี
กรรแสง ดาวทอง บทรั
กนิ
ยมใช้
เพลงรานิ
เกลิ
ง มะลิ
ซ้
อน กล่
อมนารี
สาลิ
กาแก้
ว บทดี
ใจ
นิ
ยมใช้
เพลงสองไม้
รานิ
เกลิ
ง เขมรไล่
ควาย ต้
นวรเชษฐ์
บทโกรธนิ
ยมใช้
เพลงรานิ
เกลิ
ง หงส์
ทอง สองไม้
นาคราช
เพลงตามใจ คื
อเพลงที่
ลิ
เกหรื
อผู้
บรรเลงปี่
พาทย์
นํ
ามาใช้
ตามใจชอบด้
วยเหตุ
ผลต่
าง ๆ
เช่
น บรรเลงแทรกในชุ
ดโหมโรง บรรเลงเสริ
มท้
ายเพลงชุ
ดโหมโรง บรรเลงเพลงออกของตั
วลิ
เก บรรเลงรั
เพลงรานิ
เกลิ
ง บรรเลงประกอบร้
องส่
งหน้
าเตี
ยง เป็
นต้
อย่
างไรก็
ตาม หากแบ่
งประเภทของเพลงตามลั
กษณะการบรรเลงแล้
ว สามารถแบ่
งได้
เป็
น ๒ ลั
กษณะคื
อ เพลงบรรเลงล้
วน และเพลงบรรเลงประกอบการขั
บร้
อง
เพลงบรรเลงล้
วน คื
อเพลงที่
ใช้
ในการโหมโรง การรํ
าถวายมื
อ การรํ
าออก รํ
าเข้
าขณะ
แสดง รวมทั้
งเพลงประกอบเหตุ
การณ์
ตามเนื้
อเรื่
อง
เพลงบรรเลงประกอบการขั
บร้
อง คื
อเพลงที่
ใช้
ในการขั
บร้
องขณะออกแขกขั
บร้
องขณะ
แสดง และขั
บร้
องเพื่
ออํ
าลาผู้
ชมเมื่
อจบการแสดง เพลงที่
บรรเลงประกอบการขั
บร้
องออกแขกใช้
เพลง
สํ
าเนี
ยงแขกที่
เป็
นเพลงเฉพาะของลิ
เกแต่
ละคณะ ส่
วนเพลงที่
บรรเลงประกอบการขั
บร้
องนั้
นมี
หลาย
ท่
วงทํ
านอง ได้
แก่
เพลงรานิ
เกลิ
ง ใช้
ประกอบการขั
บร้
องบรรยายตั
วผู้
แสดงเมื่
อออกมาในฉากแรก ๆ หรื
ใช้
ร้
องดํ
าเนิ
นเรื่
อง เพลงหงส์
ทอง เพลงสองไม้
ใช้
ร้
องเมื่
อออกเดิ
นทางนอกจากนี้
ยั
งนํ
าทํ
านองเพลงไทยสอง
ชั้
น และชั้
นเดี
ยวมาร้
องประกอบการแสดง เช่
น พระเอกนางเอกเกี้
ยวกั
นใช้
เพลงมะลิ
ซ้
อน เพลงกล่
อมนารี
เพลงสาลิ
กาแก้
ว เพลงลาวสวยรวย เพลงกระต่
ายเต้
น เพลงเงี้
ยว ถ้
าบทโกรธก็
ร้
องเพลงนาคราช บทโศกใช้
เพลงลาวครวญ เป็
นต้
เพลงที่
ใช้
ขั
บร้
อง มี
ทั้
งเพลงไทยชั้
นเดี
ยวหรื
อสองชั้
นที่
ใช้
ในละคร และเพลงที่
ใช้
ในการ
ดํ
าเนิ
นเรื่
องของลิ
เกโดยเฉพาะ ซึ่
งมี
ผู้
คิ
ดทํ
านองขึ้
น เช่
น เพลงหงส์
ทอง สองไม้
รานิ
เกลิ
ง เป็
นต้
น เพลงที่
เป็
นสั
ญลั
กษณ์
ของลิ
เกสื
บมาเพลงหนึ่
งคื
อเพลงรานิ
เกลิ
ง เป็
นทํ
านองเพลงที่
ศิ
ลปิ
นลิ
เกมี
ชื่
อคื
อ นายดอกดิ
เสื
อสง่
า (มี
ชี
วิ
ตระหว่
าง พ.ศ. ๒๔๐๗ – ๒๔๗๗) แต่
งขึ้
นโดยดั
ดแปลงมาจากเพลงมอญครวญของลิ
เกบั
ตน และนายหอมหวล นาคศิ
ริ
(มี
ชี
วิ
ตระหว่
าง พ.ศ. ๒๔๔๒ – ๒๕๒๑) ศิ
ลปิ
นลิ
เก มี
ชื่
ออี
กท่
านหนึ่
งได้
คิ
ดดั
ดแปลงวิ
ธี
ร้
องขึ้
นใหม่
โดยเพลงรานิ
เกลิ
งเดิ
มนั้
นร้
องคํ
าเดี
ยวลงให้
ปี่
พาทย์
รั
บ ใช้
ในตอนเกี้
ยวพาราสี
นายหอมหวล นาคศิ
ริ
ได้
ใช้
กลอนแบบลํ
าตั
ดเข้
าผสมทํ
าให้
ร้
องด้
นต่
อไปได้
ยาวแล้
วจึ
งลงให้
ปี่
พาทย์
รั
บเสี
ครั้
งหนึ่
งใช้
ร้
องบรรยายความได้
มาก และเป็
นที่
นิ
ยมร้
องในการแสดงลิ
เก สื
บมา