st128 - page 237

206
บทที่ 6
สรุปผลการศึ กษา
มรดกวัฒนธรรมตำนำนมัสยิดกรือเซะในกำรศึกษำนี้ มี ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับประวั ติ
กำรสร้ำงมัสยิ ดกรื อเซะ ยุ คสมัยของสุ ลต่ำนหรือกษั ตริย์ผู้ครองนครปัตตำนี โมงยำมที่เคลื่อนผ่ำน
นำพำเหตุ กำรณ์และรำยละเอียดของเมืองที่เกิดขึ้ น เป็นไปและส่งผลต่อมัสยิ ดกรือเซะต่ำงกรรมต่ำง
วำระ ด้วยเหตุเหล่ำนั้นจึงประกอบสร้ำงขึ้นเป็นตำนำนมัสยิดกรือเซะและถูกบอกเล่ำกล่ำวขำนต่อๆกัน
มำจำกรุ่นสู่รุ่ น ถูกประสมกับเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้ นในท้องถิ่น ทั ศนะ แนวคิด และมุ มมองของผู้มี ส่วนได้
ส่วนเสียที่มี ต่อตำนำนมัสยิดกรือเซะ มีควำมแตกต่ ำงทั้งในระดับปัจเจกชนและในระดับกลุ่ม ในกลุ่มผู้
มีส่ วนได้ส่วนเสียที่ประกอบด้ วยบุคคลหลำยคนนั้น แต่ละบุคคลมีแนวคิด มุมมอง และควำมคิ ดเห็น
ต่ อตำนำนมัสยิดกรื อเซะต่ำงกันไป ผลกำรศึ กษำพบประเด็นสำคั ญเกี่ยวกั บตำนำนมั สยิ ดกรือเซะ
สะท้อนจำกผู้ มีส่วนได้ ส่วนเสีย ได้แก่ ประวัติ กำรสร้ำงมั สยิดกรือเซะ ตำนำนมัสยิดกรือเซะและควำม
เกี่ยวพันกับตำนำนเจ้ำแม่ลิ้มกอเหนี่ ยว และตำนำนมัสยิดกรือเซะกับเหตุกำรณ์ควำมขัดแย้งในพื้นที่
อันได้แก่ เหตุกำรณ์ ประท้วงที่มั สยิดกรือเซะ พ.ศ.2533 และเหตุกำรณ์ ควำมรุนแรงที่ มัสยิ ดกรือเซะ
วั นที่ 28 เมษำยน 2547 ทั้งนี้ข้อมูลและผลกำรวิ เครำะห์และอภิปรำยผลกำรศึ กษำนั้น ตอบสนอง
วัตถุ ประสงค์และประโยชน์ของกำรศึ กษำ 3 ประกำร ดังนี้
1. เข้ำใจแนวคิดและกำรจัดกำรมรดกวัฒนธรรมตำนำนมัสยิ ดกรือเซะของผู้มี ส่วนได้
ส่วนเสีย
2. เข้ำใจปัญหำและผลกระทบต่ อกำรใช้มรดกวั ฒนธรรมตำนำนมัสยิ ดกรือเซะที่มี ต่อ
บริ บทควำมขัดแย้งในพื้ นที่ เพื่อนำไปสู่ ควำมเข้ ำใจและลดเงื่อนไขควำมขัดแย้งที่อำจเกิ ดจำกกำร
จัดกำรมรดกวัฒนธรรมต่อไป
3. สังเครำะห์องค์ควำมรู้ที่ได้เสนอเป็นแนวทำงในกำรบริหำรจัดกำรมรดกวัฒนธรรมใน
พื้นที่ขัดแย้งและประยุกต์เป็นตัวอย่ำงกับกรณีศึ กษำอื่นๆต่อไป
เมื่อพิจำรณำถึ งแนวคิดและทัศนะของผู้ ให้ข้อมูลในฐำนะเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ มีต่อ
มรดกวัฒนธรรมตำนำนมั สยิดกรือเซะนั้น อั นดับแรกที่พึ งพิจำรณำคือผู้ ให้ข้อมูลมิใช่ตั วแทนของผู้มี
ส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวพั นกับตำนำนมัสยิดกรือเซะทั้งหมด และแม้จะไม่ใช่ตั วแทน แต่เป็นตั วจริง เป็ น
บุคคลในพื้นที่ชีวิตจริงอันแวดล้อมด้วยบริบทของตำนำนมัสยิดกรือเซะที่ แตกต่ำงกัน ในฐำนะเป็นผู้มี
ส่วนได้ส่วนเสียต่อตำนำนมัสยิ ดกรือเซะในกลุ่มต่ำงๆ ได้แก่ ผู้ สืบทอดมรดกวัฒนธรรม คนใน คนนอก
ภำครัฐ ผู้ที่อยู่ในสถำบันกำรศึกษำ และสื่ อ